Warp เปลี่ยนสีรถ หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “แร็ปรถ” คือ การเปลี่ยนสีรถใหม่ โดยใช้ ฟิล์มสีแบบพิเศษมาหุ้มรถของคุณ แบบทั้งคันหรือบางส่วน เพื่อเปลี่ยนลุคหรือสไตล์ใหม่ให้กับรถยนต์ โดยไม่ต้องจ่ายแพงเพื่อพ่นสีใหม่ทั้งคัน ซึ่งมีจุดเด่น คือ ความสะดวกสบายในการเปลี่ยนลุคของรถได้ง่าย ๆ ตามใจเจ้าของรถยนต์ ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยมีหลากหลายสีให้เลือก สามารถใส่ความเป็นตัวเองหรือความชอบลงไปในสีรถได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนสีรถบ่อย ๆ และอยากให้รถดูหรูหรา สปอร์ต หรือเท่ในแบบที่ต้องการ ฟิล์มเปลี่ยนสีรถคือคำตอบที่ลงตัว

ข้อดีของการ Wrap สีรถ

มาดูกันว่าเเร็ปเปลี่ยนสีรถยนต์ (Wrap) แล้วได้อะไรบ้าง

• แต่งรถหรือเปลี่ยนลุคได้ ตามสไตล์ของเจ้าของรถ ด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกหลากหลาย
• เป็นเกราะป้องกันสีเดิมของรถ จากรอยขีดข่วน สิ่งสกปรกต่าง ๆ และรังสียูวี
• มีราคาประหยัด จับต้องได้ และคุ้มค่า มากกว่าการพ่นสีใหม่
• ใช้เวลาในการติดตั้งไม่นาน ภายใน 4 – 5 วัน พร้อมใช้งานไวขึ้น
• สามารถลอกฟิล์มออกได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน หากอยากเปลี่ยนสีใหม่
• สามารถลอกฟิล์มออก ไปใช้สีเดิมได้ หากต้องการขายรถต่อ

ข้อเสียของการ Wrap สีรถ

มาดูกันว่าเเร็ปเปลี่ยนสีรถยนต์ (Wrap) มีผลเสียอะไรบ้าง

• ติดตั้งด้วยตัวเองยาก ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีและคงทน ต้องใช้ช่างที่เชี่ยวชาญ 
• ฟิล์มสีที่มีราคาถูกเกินไป อาจได้ฟิล์มที่ไม่มีคุณภาพและใช้งานได้ไม่นาน ทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่ 
• มีอายุการใช้งานที่สั้น เมื่อเทียบกับการพ่นสี โดยแสงแดดและสภาพแวดล้อมทำให้ฟิล์มเสื่อมสภาพ
• ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถกับนายทะเบียน ตามกฎหมายของกรมขนส่ง หากเปลี่ยนสีใหม่
• มีค่าใช้จ่ายสูงในการซ่อมแซม โดยถ้าเสียหายหนัก อาจต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งคัน
• มีโอกาสเกิดสนิม ถ้าฟิล์มติดกับผิวรถไม่สนิท น้ำอาจซึมเข้าไปใต้ฟิล์มและทำลายสีรถ

ตารางราคาฟิล์มสี

Full Body Protection (ภายนอกแบบเต็มคัน)

เกรดของฟิล์ม

– ฟิล์มเกรดเริ่มต้น: ราคาถูกกว่า แต่คุณภาพและอายุการใช้งานอาจน้อยกว่า

– ฟิล์มเกรดพรีเมียม: ราคาสูงกว่า แต่คุณสมบัติและอายุการใช้งานมากกว่า

ราคาโปรโมชั่น

หากเข้ามารับบริการติดตั้งฟิล์มใสกันรอยกับเราครั้งแรก รับคูปองส่วนลดทันที 10%

ในตลาดหลักๆ จะมีด้วยกัน 3 ประเภท ด้วยกัน

1. ฟิล์ม PET (Polyethylene Terephthalate)

คุณสมบัติ:

• วัสดุเป็นพลาสติกแข็งและบาง เน้นความเงางามหรือเพิ่มสีให้รถ
• ทนทานต่อรอยขีดข่วนระดับพื้นฐาน
• ราคาประหยัดที่สุดในทั้ง 3 เกรด
• ไม่สามารถซ่อมแซมตัวเอง (Self-Healing) ได้

ข้อดี:

• ราคาเข้าถึงง่าย
• มีสีให้เลือกหลากหลาย
• เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนลุครถในงบจำกัด

ข้อเสีย:

• ความทนทานต่ำกว่าประเภทอื่น
• ไม่เหมาะกับการใช้งานระยะยาว

2. ฟิล์ม PPU (Polyurethane Hybrid)

คุณสมบัติ:

• เป็นวัสดุแบบกึ่งยืดหยุ่นผสมระหว่าง TPU และวัสดุอื่น
• มีความยืดหยุ่นปานกลาง และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่า PET
• บางรุ่นอาจมีคุณสมบัติ Self-Healing แต่ไม่สมบูรณ์เท่า TPU

ข้อดี:

• ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่า PET
• ราคาเหมาะสม ไม่แพงเท่า TPU

ข้อเสีย:

• ความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองอาจต่ำ
• อายุการใช้งานสั้นกว่า TPU

3. ฟิล์ม TPU (Thermoplastic Polyurethane)

คุณสมบัติ:

• วัสดุเกรดพรีเมียม มีความยืดหยุ่นสูง
• มีคุณสมบัติ Self-Healing ซ่อมแซมรอยขีดข่วนเล็กๆ ได้เมื่อเจอความร้อน
• ทนต่อสารเคมี รังสี UV และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

ข้อดี:

• ทนทานต่อรอยขีดข่วนและคราบสิ่งสกปรก
• ยืดหยุ่นสูง ติดตั้งง่ายและเรียบเนียนไปกับพื้นผิวรถ
• อายุการใช้งานยาวนาน (5-10 ปี)

ข้อเสีย:

• ราคาสูงที่สุดในทั้ง 3 เกรด

สรุปการเลือกใช้งาน

• PET: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสีรถในงบประหยัดและไม่เน้นการป้องกันมาก
• PPU: ตัวเลือกกลางๆ สำหรับคนที่ต้องการความคุ้มค่า
• TPU: เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นคุณภาพและการปกป้องรถยนต์ในระยะยาว

การเลือกเกรดฟิล์มขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการในการใช้งานลูกค้า

ฟิล์ม wrapสีรถ มีอายุการใช้งานประมาณ 4-5 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการใช้งานของลูกค้าแต่ละท่าน ที่จะช่วยยืดอายุฟิล์มให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น

แนะนำ Nxtzen ซึ่งเป็นแบรนด์ฟิล์ม wrapสีรถ ชั้นนำระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สามารถค้นหารีวิวได้จากหลากหลายแหล่งทั่วโลก โดย Nxtzen เป็นแบรนด์จากออสเตรีย (Austria) และเนื้อฟิล์มผลิตและนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา (USA) และเด่นในการป้องกันรอยขีดข่วน (Anti Scratch), เพิ่มความเงาใส (High Gloss), ซ่อมแซมตัวเองได้ (Self-Healing) ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความสวยงาม

– ปรับเปลี่ยนได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องพ่นสีใหม่ การตัดฟิล์มสามารถทำได้รวดเร็วและสะดวก

– ปกป้องสีเดิมของรถ ฟิล์มช่วยฟ้องกันรอยขีดข่วนและรังสียูวี ซึ่งช่วยรักษาสีเดิมของรถให้อยู่ในสภาพดี

– เปลี่ยนลุคได้หลากหลาย มีสีและลวดลายให้เลือกมากมาย ตั้งแต่สีด้าน (Matte) สีมุก (Pearl) สีเงา (Glossy) หรือแม้กระทั่งลวดลายพิเศษ

– คุ้มค่าและยืดหยุ่น สามารถเปลี่ยนฟิล์มใหม่ได้เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนลุคอีกครั้ง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง

กรณี Wrap สีรถ ต้องแจ้งขนส่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ พื้นที่ของการเปลี่ยนแปลงสีรถบนตัวรถยนต์

ตามกฎหมายของกรมขนส่งทางบก การเปลี่ยนสีรถ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม เช่น พ่นสี ติดสติกเกอร์ หรือแม้กระทั่งการ Wrap เอง หากการ Wrap เปลี่ยนแปลงสีดั้งเดิมของรถเกินกว่า 30% ของตัวรถ (Wrap ทั้งคันหรือครึ่งคัน) จำเป็นต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบก แต่ถ้า Wrap สีรถไม่เกิน 30% ของตัวรถ เช่น หลังคา ฝากระโปรง หรือกระจกมองข้าง ไม่จำเป็นต้องแจ้งขนส่งแต่อย่างใด โดยสามารถขอใบเสร็จจากทางร้านไปยื่นที่ขนส่งได้เลย

• เอกสารที่ต้องใช้หากแจ้งเปลี่ยนสีรถ : สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ, สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถ, หลักฐานการเปลี่ยนแปลงสีรถ เช่น ใบเสร็จค่าบริการ Wrap
• ระยะเวลาการแจ้ง : ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถที่กรมการขนส่งทางบก ภายใน 7 วัน หลังจากเปลี่ยนสี หากไม่แจ้งต่อขนส่งตามข้อกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
• ค่าใช้จ่ายในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ : ค่าธรรมเนียมการแจ้งเปลี่ยนสีรถ ทั้งหมด 105 บาท : 50 บาท, ค่าดำเนินการตรวจสภาพรถ: 50 บาท, ค่าคำขอ: 5 บาท

บริการฟิล์มเปลี่ยนสีรถของเรา

ฟิล์ม PPU (Polyurethane Urethane)

วัสดุทำมาจากพลาสติกยูรีเทน (Polyurethane) ที่มีคุณสมบัติแข็งแรงและยืดหยุ่นปานกลาง

คุณสมบัติเด่น

– ทนต่อรอยขีดข่วนและสารเคมีได้ดี

– มีความยืดหยุ่น แต่ไม่เท่า TPU

– ราคาประหยัดกว่า TPU

– อายุการใช้งานปานกลาง (ประมาณ 4 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล)

ข้อจำกัด

– ฟื้นฟูรอยขีดข่วนด้วยความร้อนช้า

– ความยืดหยุ่นไม่สูงมาก ทำให้ติดตั้งในพื้นที่ซับซ้อนได้ยาก

ฟิล์ม TPU (Thermoplastic Polyurethane)

วัสดุทำจากพลาสติกเทอร์โมพลาสติกยูรีเทน (Thermoplastic) ที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน

คุณสมบัติเด่น

– ทนต่อรอยขีดข่วนและสารเคมีได้อย่างยอดเยี่ยม

– ฟื้นฟูรอยขีดข่วนด้วยความร้อยได้เร็ว (Self-healing)

– มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีความโค้งซับซ้อน

– อายุการใช้งานยาวนานกว่า PPU (5 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล)

ข้อจำกัด

– ราคาสูงกว่า PPU

– ต้องการดูแลอย่างเหมาะสม

ขั้นตอนการติดตั้งฟิล์มเปลี่ยนสีรถของเรา

– เตรียมพื้นผิวรถ โดยทำความสะอาดและปรับสภาพพื้นผิวรถอย่างละเอียด เพื่อให้ฟิล์มสามารถติดแน่นกับรถยนต์

– เริ่มติดตั้งฟิล์มสี โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเรา จะทำการติดตั้งฟิล์มด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้ฟิล์มออกมาสวยงามที่สุด

– ตรวจสอบผลงานหลังการติดตั้ง โดยทีมงานจะตรวจสอบความเรียบร้อยและคุณภาพของฟิล์มก่อนส่งมอบ เพื่อให้มั่นใจว่างานออกมาสมบูรณ์แบบและตรงตามความคาดหวังของลูกค้า

ค่าใช้จ่ายของการ Wrap สีรถของเรา

– ประเภทของฟิล์มเปลี่ยนสี : ฟิล์ม PPU, ฟิล์ม TPU

– ขนาดของรถยนต์ : S, M, L, XL, XXL

– ลวดลายของฟิล์มสี : สีพื้น, ลายพิเศษ

– เตรียมผิวและติดตั้ง : บริการจากช่างที่เชี่ยวชาญ

ลูกค้าสามารถสอมถามและปรึกษาราคาและบริการกับทางเราก่อนได้ เพื่อให้ได้รับราคาที่เหมาะสมและน่าพอใจที่สุด

ช่องทางติดต่อของเรา

– เบอร์โทรศัพท์ : 096 596 639 

– Email : thenext.automotive@gmail.com

– Line : @677kygrg

– Facebook : The NeXT – Shine and Shield

– Instagram : thenext_shineandshield

– หรือติดต่อเราบนเว็บไซต์ได้ที่หน้า ติดต่อเรา

การ Wrap เปลี่ยนสีรถ ใช้เวลาน้อยกว่าการทำสีรถใหม่อย่างมาก โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 สำหรับการ Wrap ทั่วไป แต่ถ้าทำสีรถใหม่ทั้งคัน อาจต้องใช้เวลานานถึง 1 สัปดาห์ถึง 15 วัน หรือหากเป็นศูนย์บริกการที่พิถีพิถันเป็นพิเศษ อาจใช้เวลา ประมาณ 1 เดือน จุดเด่นของการ Wrap เปลี่ยนสีรถ คือมีเฉดสีและลวดลายให้เลือกมากกว่าการทำสีรถใหม่ อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวรถจากรอยขีดข่วน เศษหิน หรือเศษดิน ที่อาจกระเด็นมาโดนรถได้อีกด้วย

การ wrapสีรถ ทั้งคันใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน รวมการติดตั้งและเก็บงาน โดยช่างจะปรับพื้นผิวรถให้เรียบเนียนก่อนติดตั้ง เช่น ล้างทำความสะอาดและซ่อมแซมรอยขีดข่วน เพื่อให้ฟิล์มติดแน่นและเรียบสวยที่สุด

การ Wrap เปลี่ยนสีรถสามารถเลือกทำได้ทั้งคันหรือเฉพาะจุดตามความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ที่ The NeXT ของเราให้บริการเฉพาะ Wrap แบบเต็มคัน เพื่อให้ได้งานที่สวยงามและปกป้องสีรถเดิมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การรับประกันของบริการ Warp สีของเรา

– ฟิล์มสีภายใน : ไม่มีการรับประกัน แต่หากมีปัญหา เช่น เช่น ฟิล์มร่อนหรือเหลืองจากการติดตั้ง ทางเราจะดูแลและแก้ไขให้ภายใน 60 วันหลังติดตั้ง

– ฟิล์มสีภายนอก : รับประกันการติดตั้งและตัวฟิล์ม 60 วัน หากมีปัญหา เช่น ฟิล์มเหลือง กรอบ ร่อน หรือสีขุ่น ทางเราจะแก้ไขหรือเปลี่ยนชิ้นใหม่ให้

หากหมดระยะเวลารับประกัน และลูกค้าต้องการเปลี่ยนชิ้นงาน ทางเรามีส่วนลด 50% สำหรับรถคันเดิม

เทคนิคดูแลรถยนต์ที่ Wrap สีรถแล้ว

– กรณีที่รถพึ่ง Warp สีเสร็จ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงและสเปรย์ขจัดคราบ เพื่อป้องกันฟิล์มเสียหาย

– หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิล์มซีดจางเร็วขึ้น

– ล้างรถสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันคราบฝังแน่น ที่อาจทำให้เกิดรอยด่าง

– หลีกเลี่ยงการล้างรถโดยฟองน้ำที่อาจมีเศษกรวดฝังอยู่ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน

– เช็ดรถให้แห้งหลังล้างรถ ด้วยผ้านุ่มเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันคราบน้ำและรอยด่าง

– หลีกเลี่ยงการล้างรถกลางแดด เพื่อป้องกันคราบ ที่แดดทำให้รถแห้งเร็ว

– เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลหรือล้างรถ ที่มีค่าด้างดำต่ำ (Alkaline) มีค่า pH เป็นกลาง (pH 7) และไม่มีสารเคมีรุนแรง เช่น Ammonia หรือ Sodium Hydroxide

สามารถทำประกันได้ โดยไม่มีปัญหาใด ๆ โดยทางประกันจะบันทึกรายละเอียดของการเปลี่ยนสีรถยนต์เอาไว้  

แต่หากคุณ Wrap สีรถหลังจากที่ทำประกันไปแล้ว จะถือว่าเป็นส่วนเพิ่มเติม ที่ไม่ถูกระบุเอาไว้ในกรมธรรม์รถยนต์เดิม ควรรีบแจ้งบริษัทประกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินราคาและปรับความคุ้มครองให้เหมาะสมกับรถยนต์ของเรา  

อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันแต่ละแห่งมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ในกรณีของการ Wrap สีรถยนต์ บางแห่งอาจไม่รับประกันรถยนต์ที่ผ่านการ Wrap มา ควรตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ Wrap สีรถ  

หากคุณอยากเพิ่มความโดดเด่นให้รถด้วย Wrap เปลี่ยนสีรถ The NeXT คือตัวเลือกที่ใช่ ร้าน Wrap สีรถใกล้คุณที่พร้อมให้บริการ Wrap สีตามความต้องการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า

– ฟิล์มสีคุณภาพสูง : เราเลือกวัสดุทีมีคุณภาพเท่านั้น ทำให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ของลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง

– ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ : เรามีทีมงานมืออาชีพและมากประสบการณ์ ทำให้มั่นใจได้ว่าการถอดและประกอบรถยนต์ รวมถึงการติดตั้งฟิล์มของลูกค้าจะออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด 

– เครื่องมีอครบครัน : เรามีเครื่องตัดชิ้นงานฟิล์ม ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าการ Wrap สีรถยนต์เป็นผลงานที่ดีที่สุด 

– ความสะดวกสบาย : ปัจจุบันร้านของเรามี 4 สาขาทั่วกรุงเทพ ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการได้ทุกที่ทุกสาขา ทำให้มั่นใจได้ว่ารถของคุณจะได้รับการดูแลโดยมืออาชีพ