ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ Window Film
ศูนย์บริการติดตั้งฟิล์มกรองแสงติดกระจกรถยนต์
The NeXT หนึ่งในผู้นำด้าน Car Detailing ในประเทศไทย
ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ Window Film
ฟิล์มกรองแสงติดกระจกรถยนต์ กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับรถยนต์ในบ้านเรา ถือว่าเป็นอุปกรณ์ตกแต่งชิ้นแรกๆ ที่เรานำมาติดตั้งให้กับรถคันโปรดเลยก็ว่าได้
หน้าที่หลักของก็หนีไม่พ้นการช่วยลดความร้อนแรงของแดดประเทศไทย และหากรถของเราติดฟิล์มที่มีสีสันสวยงามและมีความเข้มอย่างเหมาะสมก็จะเป็นการช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถอีกด้วย
ฟิล์มกรองแสง ถึงแม้ว่าจะดูคล้ายๆกันหมด แต่ในความเป็นจริงแต่ละแบรนด์มีคุณภาพแตกต่างกัน ซึ่งฟิล์มติดกระจกรถยนต์จะอยู่กับเราไปอีกหลายปี จะเลือกซื้อทั้งที ก็เลือกให้ดีและเหมาะสมกันดีกว่า
ทำไมถึงต้องเลือกติดฟิล์ม Solar Gard ที่ The NeXT
Black Phantom Series ฟิล์มกรองแสงเซรามิคนวัตกรรมใหม่ มีความคงทนด้วยเนื้อฟิล์ม 5 ชั้น หนาถึง 2 Mil ให้ความดำเข้มเป็นส่วนตัว จากสายตาภายนอก
- ภายในสว่าง ทัศนวิสัยเคลียร์ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน
- รองรับสัญญาณดิจิทัลทุกชนิด
- สะท้อนความร้อนได้สูงถึง 96% ช่วยให้ในรถเย็นสบายไม่ทำให้เกิดสนิมฟิล์ม
- พร้อมรับประกันนานถึง 8 ปีเต็ม
- เลือกความเข้มได้ 3 ระดับ BPh-30, BPh-15, BPh-5
มั่นใจได้เพราะฟิล์มทุกม้วนของเราผลิตและทดสอบประสิทธิภาพจากสถาบันวิจัย Solar Gard ประเทศสหรัฐอเมริกา
ฟิล์มกรองแสง Solar Gard : Black Phantom Series
Black Phantom Series ฟิล์มกรองแสงเซรามิคนวัตกรรมใหม่ ด้วยเนื้อฟิล์ม 5 ชั้น หนาถึง 2 Mil ให้ความดำเข้มเป็นส่วนตัว จากสายตาภายนอก
- ภายในสว่าง ทัศนวิสัยเคลียร์ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน
- รองรับสัญญาณดิจิทัลทุกชนิด
- สะท้อนความร้อนได้สูงถึง 96% ช่วยให้ในรถเย็นสบายไม่ทำให้เกิดสนิมฟิล์ม
- พร้อมรับประกันนานถึง 8 ปีเต็ม
- เลือกความเข้มได้ 3 ระดับ BPh-30, BPh-15, BPh-5
มั่นใจได้เพราะฟิล์มทุกม้วนของเราผลิตและทดสอบประสิทธิภาพจากสถาบันวิจัย Solar Gard ประเทศสหรัฐอเมริกา
ฟิล์มกรองแสง Hi-Kool : Ceramic Black Night
Ceramic Black Night ฟิล์มกรองแสงเซรามิกจาก Hi- Kool เป็นฟิล์มเซรามิคนวัตกรรมพิเศษ Nano ที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้สูง ซึ่งทำให้นอกจากจะขับขี่สบายตาในเวลากลางวันและเป็นฟิล์มมืดนอกสว่างในที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืนแล้ว การติดฟิล์มรถยนต์แบบเซรามิคตัวนี้ยังไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลต่าง ๆ ทำให้ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ได้อย่างลงตัว ฟิล์มรถยนต์ชนิดเซรามิคโทนดำ เอาใจคนชอบรถยนต์สายหล่อเข้ม เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเหนือใคร ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน จนใครเห็นก็ต้องเหลียวมอง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงรถยนต์
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ หรือ Window Tint คือ แผ่นฟิล์มใสพลาสติกโพลีเอสเตอร์ ถูกออกแบบมาเพื่อติดบริเวณกระจกรถยนต์ ช่วยลดความร้อนและรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ ด้วยคุณสมบัติเหนียว ยืดหยุ่น ใส ไม่บิดเบือนมุมมอง ทนต่อรอยขีดข่วน และความร้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้นิยมมาใช้เป็นฟิล์มรถยนต์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายสบายในการขับขี่ ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน
ข้อดีของฟิล์มกรองแสงรถยนต์
มาดูกันว่าติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ แล้วได้อะไรบ้าง
– ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด ทำให้อุณหภูมิภายในรถลดลง ห้องโดยสารเย็นสบายยิ่งขึ้น
– ปกป้องผิวหนังและดวงตาจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย พร้อมทั้งช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ภายในรถ
– เพิ่มความเป็นส่วนตัวแก่ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ โดยลดการมองเห็นจากภายนอก และป้องกันทรัพย์สินภายในรถ
– ป้องกันแสงสะท้อนที่ส่องเข้ามาสู่ตัวรถ ลดแสงจ้าเข้าตา ช่วยให้ง่ายและปลอดภัยต่อการขับขี่
– ป้องกันอันตรายจากกระจกแตก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยฟิล์มจะช่วยยึดเศษกระจกไม่ให้กระจายตัว
– ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกรถ เหมาะสำหรับเดินทางขับขี่ที่ต้องการสมาธิ และพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
ข้อเสียของฟิล์มกรองแสงรถยนต์
มาดูกันว่าติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ มีผลเสียอะไรบ้าง
– มีค่าใช้จ่ายที่สูง ด้วยฟิล์มคุณภาพดีมักมีราคาสูงกว่าฟิล์มทั่วไป แต่ก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ดีเช่นกัน
– ฟิล์มที่มีความเข้มมากเกินไป เช่น 80% จะมองเห็นได้ได้ลำบากในเวลากลางคืน และส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่
– มีปัญหาสัญญาณรบกวน ด้วยฟิล์มบางประเภท เช่น ฟิล์มเคลือบโลหะ อาจรบกวนสัญญาณต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์ GPS หรือ Easy Pass
– อายุการใช้งานสั้นในฟิล์มคุณภาพต่ำ ด้วยฟิล์มที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเกิดปัญหาหลังการติดตั้งได้ง่าย เช่น ซีดจาง หลุดลอก หรือเกิดฟองอากาศ
– มีความยุ่งยากในการติดตั้ง หากช่างติดตั้งไม่มีความชำนาญ อาจทำให้ฟิล์มออกมาไม่เรียบเนียน และมีปัญหาในภายหลัง
– มีอายุการใช้งานจำกัด ด้วยฟิล์มกรองแสงไม่ได้อยู่ถาวร โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานได้ตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปี
ทางเราได้คัดสรรฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงเพื่อดูแลคุณลูกค้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Solar Guard และ Hi Cool ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพ ราคาติดตั้งเริ่มต้นเพียง รอบคัน 6,000 บาท ก่อนหักส่วนลด โดยราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิล์มที่ลูกค้าเลือกและขนาดของรถยนต์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิล์มแต่ละรุ่นหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถสอบถามเราได้ที่หน้า ติดต่อเรา
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มีในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ตามคุณสมบัติและการใช้งาน ดังนี้
- ฟิล์มกรองแสงแบบย้อมสี (Dyed Window Tint)
ฟิล์มประเภทนี้เคลือบด้วยสี เพื่อช่วยลดความร้อนและกรองแสงจากแสงอาทิตย์ให้มีความเข้มน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มราคาประหยัด สามารถติดรอบคันได้ในราคาประมาณ 1,000 – 5,000 บาท แต่ข้อเสียคืออายุการใช้งานที่สั้นอยู่ที่ 3 – 5 ปี เมื่อใช้งานไปนาน ๆ สีของฟิล์มอาจซีดจางลง กาวยึดติดอาจเริ่มเสื่อมสภาพ ประสิทธิภาพในการป้องกันป้องกันความร้อนและรังสียูวีลดลง
- ฟิล์มกรองแสงแบบเคลือบโลหะ (Metalized Window Tint)
ฟิล์มประเภทนี้เคลือบด้วยชั้นโลหะบาง ๆ เพื่อสะท้อนแสงแดดและลดความร้อน เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาฟิล์มที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน รอยขีดข่วนได้ดี และราคาสมเหตุสมผล สามารถติดรอบคันได้ในราคาประมาณ 3,000 – 8,000 บาท มีอายุการใช้งานที่ยาวนานประมาณ 3 – 7 ปี แต่ข้อเสียคืออาจรบกวนสัญญาณดิจิทัลต่าง ๆ ทำให้ใช้งานได้ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก
- ฟิล์มกรองแสงแบบเซรามิก (Ceramic Window Tint)
ฟิล์มประเภทนี้ใช้เทคโนโลยีเซรามิกที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ช่วยลดความร้อนและแสงสะท้อนอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มที่มีคุณภาพ ลดความร้อนและป้องกันรังสียูวีได้ดีถึง 90% ไม่รบกวนสัญญาณต่าง ๆ สามารถติดรอบคันได้ในราคาประมาณ 8,000 – 18,000 บาท มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 10 ปี แต่ข้อเสียคือมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฟิล์มชนิดอื่น ๆ
- ฟิล์มกรองแสงแบบคาร์บอน (Carbon Window Tint)
ฟิล์มประเภทนี้ใช้เทคโนโลยีอนุภาคนาโนคาร์บอน ทำให้ฟิล์มมีสีดำเข้มที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ภายนอกดูทึบแต่ภายในยังคงมีความชัดเจน ใส ไม่สะท้อนแสงมากจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มที่คุณภาพสูง มีความคงทน ไม่ซีดจาง และราคาสมเหตุสมผล สามารถติดรอบคันได้ในราคาประมาณ 5,000 – 12,000 บาท มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 10 ปี แต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูง และกักเก็บความร้อนได้ดี ทำให้ไม่เหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทยมากนัก
- ฟิล์มกรองแสงแบบไฮบริด (Hybrid Window Tint)
ฟิล์มประเภทนี้เป็นการผสมผสานระหว่างฟิล์ม 2 ชนิด คือ ฟิล์มกรองแสงแบบย้อมสี (Dyed Window Tint) และ ฟิล์มกรองแสงแบบเคลือบโลหะ (Metalized Window Tint) เพื่อช่วยลดความร้อนและป้องกันแสงจากแสงอาทิตย์ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ลดความร้อน สะท้อนแสงได้ดี ไม่รบกวนสัญญาณต่าง ๆ สวยงาม สามารถติดรอบคันได้ในราคาประมาณ 3,000 – 8,000 บาท มีอายุการใช้งานที่ยาวนานประมาณ 5 – 7 ปี แต่ข้อเสียคือราคาสูงกว่าฟิล์มทั่วไป และความนิยมอาจยังไม่แพร่หลายนัก
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์คุณภาพดีนั้นนั้นมีอายุการใช้งาน 5 – 10 ปีขึ้นไปอยู่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิล์มที่ติดตั้ง ฟิล์มเกรดพรีเมียมมักมีความทนทานมากกว่าและสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า นอกจากนี้ การใช้งานและการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ก็มีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มได้ดียิ่งขึ้น
1. ฟิล์ม Hi-Kool รุ่น Ceramic Black Night
ฟิล์ม Hi-Kool เป็นฟิล์มกรองแสงที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Nano ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันความร้อนและรังสี UV อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มที่ตอบโจทย์การขับขี่สบายตา และเพิ่มความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวนการทำงานของสัญญาณดิจิทัล เช่น GPS, Easy Pass และโทรศัพท์มือถือ มอบความหล่อเข้มในโทนสีดำ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในงบประมาณ ก็ได้ประสิทธิภาพ เทียบชั้นฟิล์มเกรด หลายหมื่นบาทเลยทีเดียว
จุดเด่น
– ป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 99%
– ลดแสงสะท้อนในช่วงกลางวัน ช่วยให้ขับขี่สบายตา
– ให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน
– ลดความร้อนภายในห้องโดยสาร ทำให้รถเย็นสบาย
ราคา
– เริ่มต้นที่ 6000 บาท ฟรีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและลอกฟิล์มเก่า
2. ฟิล์มยี่ห้อ Solar Gard รุ่น Black Phantom Series
ฟิล์ม Solar Gard เป็นฟิล์มกรองแสงที่ด้วยนวัตกรรมใหม่ ด้วยเนื้อฟิล์มหนาถึง 5 ชั้น ให้ความดำเข้ม เพิ่มความเป็นส่วนตัวจากสายตาภายนอก แต่ยังคงให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนจากภายใน ไม่ว่าช่วงกลางวันหรือกลางคืน ไม่รบกวนสัญญาณ GPS หรือโทรศัพท์ อีกทั้งยังมีความสามารถในการสะท้อนความร้อนและรังสี UV มากกว่าการทาครีมกันแดด ถึง 20 เท่า พร้อมช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร ให้คุณรู้สึกสบายกว่า
จุดเด่น
– ลดความร้อนสะสมภายในรถ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– ลดแสงสะท้อน ช่วยให้มองเห็นและขับขี่ได้สบายตา แม้แดดจ้า
– ช่วยประหยัดพลังงาน โดยลดการทำงานของระบบปรับอากาศ
– ปกป้องรถและผู้โดยสารจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย
ราคา
– เริ่มต้นที่ size S 18,000 บาท ฟรีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและลอกฟิล์มเก่า
โดยทั่วไป การติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของรถยนต์ที่ลูกค้านำมาติด หรือมีการลอกฟิล์มเก่าหรือไม่ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำสูง เพื่อให้ฟิล์มเรียบเนียน สวยงาม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเร่งรีบเกินไป อาจทำให้คุณภาพงานไม่ดีเท่าที่ควร
ค่าใช้จ่ายของการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ของเรา
– ยี่ห้อของฟิล์มกรองแสง : ฟิล์ม Hi-Kool, ฟิล์ม Solar Gard
– ขนาดของรถยนต์ : S, M, L, XL, XXL
– เตรียมผิวและติดตั้ง : บริการจากช่างที่เชี่ยวชาญ
ลูกค้าสามารถสอมถามและปรึกษาราคาและบริการกับทางเราก่อนได้ เพื่อให้ได้รับบริการที่เหมาะสมและโปรโมชั่นในแต่ละช่วง รับรองว่าคุ้มจุใจคุณลูกค้าแน่นอน
ความเข้มของฟิล์มกรองแสงรถยนต์หลัก ๆ มีอยู่ 3 ระดับ คือ 40%, 60%, และ 80% โดยแต่ละระดับมีจุดเด่นและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
ฟิล์มความเข้ม 40%
– เป็นฟิล์มที่มีความใส แสงสามารถผ่านเข้ามาในตัวรถได้ประมาณ 35 – 60%
– เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสายตา และต้องการทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดเจน
– ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ขับขี่สะดวกในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะเวลากลางคืน
ฟิล์มความเข้ม 60%
– เป็นฟิล์มที่มีความเข้มปานกลาง แสงสามารถผ่านเข้ามาในตัวรถได้ประมาณ 20 – 40%
– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ยังมองเห็นภายนอกรถได้ชัดเจน
– ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่มืดจนเกินไป ขับได้ทั้งกลางวันกลางคืน
ฟิล์มความเข้ม 80%
– เป็นฟิล์มที่มีความเข้มมากที่สุด แสงสามารถผ่านเข้ามาในตัวรถได้ประมาณ 5 – 20%
– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ลดแสง แต่ยังมองเห็นภายนอกรถได้ชัดเจน
– ให้ความรู้สึกส่วนตัว เย็นสบาย แต่ควรระวังการมองเห็นในเวลากลางคืนที่อาจลดลง
คำแนะนำ
หากคุณต้องขับรถในเวลากลางวันบ่อย ๆ ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง เพื่อป้องกันแสงแดดและความร้อน
หากคุณต้องขับรถในเวลากลางคืนบ่อย ๆ ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มน้อย เพื่อทัศนวิสัยที่ชัดเจนในการขับขี่
ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์จะต้องติดด้านในกระจก ส่วนที่เราเห็นช่างนำฟิล์มมาวางบนกระจกด้านนอกนั้น เป็นเพียงขั้นตอนการตัดและปรับให้เข้ากับรูปทรงของกระจก ก่อนนำไปติดด้านใน แต่ถ้าเป็นฟิล์มใสกันรอยหรือฟิล์ม Wrap เปลี่ยนสีรถ จะติดตั้งที่ด้านนอกของกระจกหรือพื้นผิวรถ
สามารถล้างรถได้ตามปกติ เพราะฟิล์มกรองแสงติดอยู่ด้านในของกระจก ทำให้ไม่ส่งผลจากการล้างรถด้านนอก แต่ควรหลีกเลี่ยงการเช็ดและล้างกระจกภายใน โดยเฉพาะช่วง 7 – 10 วันแรกหลังการติดตั้ง เพราะฟิล์มยังไม่ได้ยึดติดกับกระจกดีพอ ควรให้เวลาฟิล์มเซตตัวเต็มที่ก่อน เพื่อไม่ให้ฟิล์มหลุดลอกหรือเกิดฟองอากาศ
วิธีติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ของเรา
– เตรียมพื้นผิวรถ : ทำความสะอาดกระจกรถทั้งภายในและภายนอก เพื่อตัดฟิล์มให้เข้ากับขนาดกระจก
– เริ่มติดตั้งฟิล์มกรองแสง : ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเรา จะทำการติดตั้งฟิล์มด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้ฟิล์มออกมาสวยงามที่สุด
– ตรวจสอบผลงาน : หลังการติดตั้ง ทีมงานจะตรวจสอบความเรียบร้อยและคุณภาพของฟิล์มก่อนส่งมอบ เพื่อให้มั่นใจว่างานออกมาสมบูรณ์แบบและตรงตามความคาดหวังของลูกค้า
ช่องทางติดต่อของเรา
– เบอร์โทรศัพท์ : 096 596 639
– Email : thenext.automotive@gmail.com
– Line : @677kygrg
– Facebook : The NeXT – Shine and Shield
– Instagram : thenext_shineandshield
– หรือติดต่อเราบนเว็บไซต์ได้ที่หน้า ติดต่อเรา
ไม่ เพราะปัจจุบันกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ฟิล์มกรองแสงสีดำเข้ม ได้ถูกยกเลิกไปอย่างเป็นทางการแล้ว ตำรวจจึงไม่มีสิทธิ์เรียกตรวจจากการติดฟิล์มลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากเป็นรถที่ติดฟิล์มปรอท หรือฟิล์มที่มีค่าการสะท้อนแสงเกิน 30% ยังคงถือว่าผิดกฎหมายอยู่ เพราะสะท้อนแสงจนรบกวนสายตาของผู้ขับขี่คนอื่น ควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด
หลังติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ควรจอดรถไว้ในที่มีแสงแดดประมาณ 3 วัน เพื่อให้น้ำยาที่ใช้ติดตั้งระเหยจนหมด ไม่มีคราบน้ำหลงเหลือ ทำให้ฟิล์มยึดติดกับกระจกได้ดียิ่งขึ้น และพร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
สามารถทำได้ แต่ไม่แนะนำให้เลือกฟิล์มที่มีความเข้มมากเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อการมองเห็น โดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือช่วงที่ฝนตก ส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ได้ นอกจากนี้อาจมีปัญหาเรื่องประกันของฟิล์ม แนะนำให้เลือกใช้ฟิล์มคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการ แทนการติดตั้งฟิล์มซ้อนหลายชั้น
การเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถทำได้ตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1. ความต้องการของผู้ใช้
– เน้นประสิทธิภาพในการลดความร้อน
– เพิ่มความสวยงามให้กับรถยนต์
– ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง
– เหมาะสำหรับขับขี่ทั้งกลางวันหรือกลางคืน
2. ราคาของฟิล์ม
– เลือกฟิล์มจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
– ตำแหน่งที่ติดตั้งทั้งคันหรือบางส่วน
– เลือกฟิล์มที่มีคุณภาพและคุ้มค่า
– อายุการใช้งานของฟิล์ม
3. คุณสมบัติของฟิล์ม
– ป้องกันความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
– ปกป้องคนและรถจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย
– ทนต่อรอยขีดข่วน เพื่อยืดอายุการใช้งาน
– มีความแข็งแรง คงทนต่อการใช้งานระยะยาว
สามารถโดนฝนได้ เพราะฟิล์มติดตั้งอยู่ด้านในของกระจก โดยฝนจะไม่ส่งผลกระทบต่อกาวหรือตัวฟิล์มด้านใน อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังติดตั้ง ในช่วงหน้าฝน ควรหลีกเลี่ยงการโดนฝน เพื่อให้กาวเซ็ตตัวและฟิล์มแห้งอย่างสมบูรณ์ เพราะความชื้นอาจทำให้ฟิล์มแห้งช้าลง
หลังติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ควรหลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดกระจกอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้กาวยึดติดฟิล์มกับกระจกได้แห้งสนิทดี และป้องกันฟิล์มเลื่อนหรือหลุดออกจากกระจก ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเลื่อนกระจกจนมั่นใจว่าฟิล์มติดสนิทและแห้งอย่างสมบูรณ์ ก่อนใช้งานตามปกติ