Graphene Coating
เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก เคลือบกราฟีน
Graphene เคลือบกราฟีน
Opti-Coat Pro เคลือบเซรามิก จาก SiC ดีที่สุดจาก USA
ที่สุดแห่งความเงางามและการปกป้องที่เหนือกว่า!
ผลิตภัณฑ์เคลือบเซรามิก เป็นรุ่นพัฒนาจากผลิตภัณฑ์ Opti-Coat Pro ที่เพิ่มขึ้น 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรก คือ Opti-Coat Pro เป็นการเคลือบเซรามิกที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ลดและป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมี ช่วยลดการซีดจางของผิวสีรถจากรังสี UV และเพิ่มขั้นตอนที่ 2 ด้วย Opti-Coat Pro Plus ชั้นเคลือบที่ 2 ที่จะช่วยเพิ่มความเงางาม เงา สวย ใส ปกป้องได้ถึงที่สุดและช่วยป้องกันสีผิวรถในระยะยาว ด้วยการรับประกันเป็นเวลา 7 ปี
Optimum Gloss Coat สัมผัสความทนทาน ไฮบริดเซรามิก!
เคลือบแก้วในรูปแบบไฮบริดเซรามิก และเพิ่ม Advance Polymer System ที่ให้คุณสมบัติในการเคลือบชั้นผิวรถให้เงาใส Gloss สูง และยังให้การต้านทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น ทนต่อการสึกกร่อนได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปตามท้องตลาด และมั่นใจด้านการปกป้องจากรังสี UV ที่จะทำให้รถคุณซีดจาง
OPTIMUM GLOSS COAT
สัมผัสความทนทาน ไฮบริดเซรามิก!
เคลือบแก้วในรูปแบบไฮบริดเซรามิก และเพิ่ม Advance Polymer System ที่ให้คุณสมบัติในการเคลือบชั้นผิวรถให้เงาใส Gloss สูง และยังให้การต้านทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น ทนต่อการสึกกร่อนได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปตามท้องตลาด และมั่นใจด้านการปกป้องจากรังสี UV ที่จะทำให้รถคุณซีดจาง
GRAPHENE SERUM
• สารกราฟีน Graphene
• Hydrophobic effect น้ำไม่เกาะ ลดโอกาสเกิดคราบน้ำได้เป็นอย่างดี
• ปกป้องโอกาสเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
• ป้องกันมูลนกและยางไม้ได้เป็นอย่างดี
• รักษาความสะอาดได้ด้วยตนเอง(Self Cleaning)
• ต่อต้านไฟฟ้าสถิตย์ลดโอกาสการจับตัวของฝุ่นละออง(Anti static effect)
• ปกป้องยาวนานมากกว่า 7 ปีขึ้นไป
OPTICOAT PRO
• สาร Silicon Carbide (SiC)
• Hydrophobic effect น้ำไม่เกาะ ลดโอกาสเกิดคราบน้ำได้เป็นอย่างดี
• ปกป้องโอกาสเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
• ป้องกันมูลนกและยางไม้ได้เป็นอย่างดี
• รักษาความสะอาดได้ด้วยตนเอง(Self Cleaning)
• ต่อต้านไฟฟ้าสถิตย์ลดโอกาสการจับตัวของฝุ่นละออง(Anti static effect)
• ปกป้องยาวนานมากกว่า 7 ปีขึ้นไป
OPTIMUM GLOSS
• สาร Silica (SiO2) & Silicon Carbide (SiC)
• Hydrophobic effect น้ำไม่เกาะ ลดโอกาสเกิดคราบน้ำได้เป็นอย่างดี
• ปกป้องโอกาสเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
• ป้องกันมูลนกและยางไม้ได้เป็นอย่างดี
• ต่อต้านไฟฟ้าสถิตย์ลดโอกาสการจับตัวของฝุ่นละออง(Anti static effect)
• ปกป้องยาวนานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก เคลือบกราฟีน
เคลือบแก้ว หรือ Glass Coating คือ การเคลือบพื้นผิวสีรถยนต์ให้หนาขึ้นโดยใช้ซิลิก้า (Silica Dioxide) ที่เป็นสารตัวเดียวกันในการผลิตแก้ว เมื่อแห้งสนิทจะแข็งตัวเป็นชั้นฟิล์มใสคล้ายแก้วบาง ๆ ที่เคลือบอยู่บนตัวถังรถ โดยมีระดับความหนาที่แตกต่างกันถึง 9 ระดับตั้งแต่ 1H – 9H (Hardness หรือ ค่าความแข็ง) ช่วยปกป้องสีรถยนต์จากรอยขีดข่วน รอยขนแมว คราบสกปรกต่าง ๆ และแสง UV ที่เราจะเจอระหว่างทาง รวมถึงให้ความเงางามแก่รถยนต์
ข้อดีของการเคลือบแก้ว
มาดูกันว่าเคลือบแก้ว (Glass Coating) แล้วได้อะไรบ้าง
– ป้องกันสีรถจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ให้เป็นรอยง่าย ทนทานต่อสิ่งไม่พึงประสงค์บนท้องถนน
– เพิ่มความเรียบหรู เงางามเหมือนกระจกให้กับรถ สภาพผิวของรถยนต์ดูสดใหม่อยู่เสมอ
– ทำความสะอาดง่ายขึ้น ด้วยคุณสมบัติกันน้ำ (Hydrophobic) ทำให้น้ำและสิ่งสกปรกไม่เกาะติดพื้นผิว
– ลดการเกิดคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ฝังลึกลงในผิวรถ รักษาความเงางามได้นานยิ่งขึ้น
– ป้องกันรถยนต์จากรังสียูวีได้ ถ้าต้องจอดรถกลางแจ้งบ่อย ๆ ลดความเสี่ยงของสีรถต่อการซีดจาง
– ความทนทานยาวนาน สามารถอยู่ได้ประมาณ 2 – 3 ปี หรือมากกว่านั้น ให้การปกป้องที่ยาวนาน
ข้อเสียของการเคลือบแก้ว
มาดูกันว่าเคลือบแก้ว (Glass Coating) มีผลเสียอะไรบ้าง
– มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะต้องเลือกใช้วัสดุในการเคลือบที่คุณภาพดี และผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
– ต้องใช้เครื่องมือ สถานที่ และช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ในการเคลือบออกมาดีที่สุด
– เคลือบแก้วมีกลิ่นของสารเคมี ทำให้รู้สึกเวียนหัวได้ง่ายและเป็นอันตรายได้ ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
– การเคลือบแก้วกันรอยขีดข่วนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้ามีรอยขีดข่วนหนักๆ ก็ไม่สามารถป้องกันได้
การเคลือบเซรามิก หรือ Ceramic Coating คือ การเคลือบพื้นผิวสีรถยนต์ ด้วยน้ำยาเคลือบที่มีส่วนผสมของเซรามิก ช่วยสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ ที่มีความแข็ง ใส และยึดเกาะกับสีรถอย่างถาวร ชั้นเคลือบนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการปกป้องพื้นผิวรถจากรอยขีดข่วน น้ำ แสงแดด และรังสียูวี ที่อาจทำให้รถเสียหาย รวมถึงยังช่วยเพิ่มความเงางามและคงสภาพเหมือนใหม่ได้ยาว ๆ โดยปกติแล้วจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 – 5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาเคลือบและการดูแลรักษาหลังการเคลือบ
ข้อดีของการเคลือบเซรามิก
มาดูกันว่าเคลือบเซรามิก (Ceramic Coating) แล้วได้อะไรบ้าง
– ป้องกันสีรถจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ และรอยขีดข่วนเล็ก ๆ รอยขนแมว ที่อาจเกิดจากการใช้งาน
– เพิ่มความเงางามของสีรถ ทำให้สภาพรถดูเหมือนใหม่ ฉ่ำวาว คงความสวยงามได้ยาวนาน
– ป้องกันรังสียูวีจากแสงแดด ที่เป็นสาเหตุหลักของการซีดจาง แตกลาย และหมองของสีรถ
– ช่วยให้น้ำและคราบสกปรกไม่เกาะติดบนพื้นผิวรถ ไม่ให้เกาะแน่นบนพื้นผิวรถ เพียงล้างน้ำ
– ลดแรงและค่าใช้จ่ายในการล้างรถ ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นและไม่จำเป็นต้องล้างบ่อย
– มีความทนทานสูง สามารถอยู่ได้นาน 2 – 5 ปี ไม่ต้องเคลือบบ่อยเหมือนการเคลือบสีปกติ
ข้อเสียของการเคลือบเซรามิก
มาดูกันว่าติดเคลือบแก้ว (Ceramic Coating) มีผลเสียอะไรบ้าง
– มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเคลือบแบบทั่วไป ด้วยน้ำยาที่ต้องมีคุณภาพ และขั้นตอนที่ต้องการความละเอียด
– ต้องใช้เครื่องมือ สถานที่ และช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ในการเคลือบออกมาดีที่สุด
– ใช้ระยะเวลาในการเคลือบค่อนข้างนาน ทำให้ต้องอาศัยประสบการณ์จากช่างมากฝีมือในด้านนี้โดยเฉพาะ
– กันรอยขีดข่วนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีประสิทธิภาพการป้องกัน เทียบเท่าฟิล์มกันรอยรถยนต์
การเคลือบกราฟีน หรือ Graphene Coating คือ การเคลือบพื้นผิวสีรถยนต์ ด้วยน้ำยาเคลือบที่มีส่วนผสมของกราฟีน ที่เป็นหนึ่งในสารที่บางและแข็งแรงที่สุดในโลก เพื่อเพิ่มความทนทาน และประสิทธิภาพให้กับงานเคลือบผิว เช่น เมื่อเคลือบกราฟีนควบคู่กับเคลือบเซรามิก จะทำให้ชั้นเคลือบมีความสามารถในการปกป้องพื้นผิวรถจาก รอยขีดข่วน สิ่งสกปรก ทนความร้อน และป้องกันน้ำได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับการเคลือบเซรามิกแบบดั้งเดิม ช่วยให้รถของคุณได้รับการปกป้องได้ดีขึ้นอีกระดับ
ข้อดีของการเคลือบกราฟีน
มาดูกันว่าเคลือบกราฟีน (Graphene Coating) แล้วได้อะไรบ้าง
– ปกป้องรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม ด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าการเคลือบแบบอื่น
– ลดการเกาะของฝุ่นและน้ำ มีคุณสมบัติ Hydrophobic และ Anti-Static ทำให้ฝุ่นและน้ำไม่ติดพื้นผิ
– ช่วยกระจายความร้อน ลดอุณหภูมิพื้นผิวรถในวันที่แดดแรง ด้วยความสามารถในการกระจายความร้อน
– เพิ่มความเงางาม ทำให้รถดูเงางามเหมือนใหม่ได้นาน
– อายุการใช้งานยาวนาน ชั้นเคลือบทนทาน อยู่ได้นานหลายปีโดยไม่ต้องเคลือบซ้ำ
– ลดการทำความสะอาด รถสะอาดง่ายขึ้น ไม่ต้องออกแรงขัดบ่อย
ข้อเสียของการเคลือบกราฟีน
มาดูกันว่าติดเคลือบกราฟีน (Graphene Coating) มีผลเสียอะไรบ้าง
– ราคาสูงกว่าการเคลือบทั่วไป เนื่องจากวัสดุกราฟีนเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีต้นทุนสูง
– ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง การเคลือบกราฟีนต้องการความชำนาญและอุปกรณ์เฉพาะ
– การซ่อมแซมชั้นเคลือบยาก หากชั้นเคลือบเสียหาย อาจต้องเคลือบใหม่ทั้งคัน ไม่สามารถซ่อมเฉพาะจุดได้
– มีตัวเลือกในตลาดจำกัด เนื่องจากยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ อาจมีตัวเลือกของผลิตภัณฑ์และศูนย์บริการไม่มากนัก
ตารางราคาเคลือบ
Full Body Protection (ภายนอกแบบเต็มคัน)
ขนาดรถยนต์ | Optimum Gloss Coat | Opti-Coat Pro | Nxtzen Graphene Serum |
S | 15,000 | 27,000 | 37,000 |
M | 15,000 | 27,000 | 37,000 |
L | 17,000 | 29,000 | 39,000 |
XL | 20,000 | 31,000 | 42,000 |
XXL | 25,000 | 35,000 | 47,000 |
ราคาโปรโมชั่น
หากเข้ามารับบริการติดตั้งฟิล์มใสกันรอยกับเราครั้งแรก รับคูปองส่วนลดทันที 10%
ช่องทางติดต่อของเรา
– เบอร์โทรศัพท์ : 096 596 639
– Email : thenext.automotive@gmail.com
– Line : @677kygrg
– Facebook : The NeXT – Shine and Shield
– Instagram : thenext_shineandshield
– หรือติดต่อเราบนเว็บไซต์ได้ที่หน้า ติดต่อเรา
บริการเคลือบของเรา
เคลือบแก้ว ยี่ห้อ Optimum Gloss Coat
เคลือบแก้วแบบผสมเซรามิก
คุณสมบัติ
– เพิ่มความเงางามสูงสุดให้กับพื้นผิวรถยนต์
– น้ำไม่เกาะ ลดโอกาสเกิดคราบน้ำได้เป็นอย่างดี (Hydrophobic effect)
– ป้องกันโอกาสเกิดรอยขีดข่วนและริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
– ป้องกันมลภาวะและสิ่งสกปรก เช่น มูลนกหรือยางไม้
– ทำความสะอาดพื้นผิวได้ง่าย
– ต่อต้านไฟฟ้าสถิต ลดการจับตัวของฝุ่นละออง (Anti static effect)
อายุการใช้งาน
มากกว่า 3 ปี
เคลือบเซรามิก ยี่ห้อ Opti-Coat Pro
เคลือบเซรามิก แบบ SiC (Silicon Carbide)
คุณสมบัติ
– เพิ่มความเงางามสูงสุดให้กับพื้นผิวรถยนต์
– น้ำไม่เกาะ ลดโอกาสเกิดคราบน้ำได้เป็นอย่างดี (Hydrophobic effect)
– ป้องกันโอกาสเกิดรอยขีดข่วนและริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
– ป้องกันมลภาวะและสิ่งสกปรก เช่น มูลนกหรือยางไม้
– รักษาความสะอาดได้ด้วยตัวเอง (Self Cleaning)
– ต่อต้านไฟฟ้าสถิต ลดการจับตัวของฝุ่นละออง (Anti static effect)
อายุการใช้งาน
มากกว่า 7 ปี
เคลือบกราฟีน ยี่ห้อ Nxtzen Graphene Serum
เซรามิกเรซินผสมกราฟีน กับ SiC hybrid formula
คุณสมบัติ
– เพิ่มประสิทธิภาพการกันน้ำ ความลื่น และความเงางาม เป็นการปกป้องที่กีมากขึ้นกว่าเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกในยุคปัจจุบัน (Super Hydrophobic)
– ทนทานต่อการการกัดกร่อนจากสารเคมีต่าง ๆ ทั้งกรดและด่าง (pH 2 – 14)
– ปกป้องที่ยาวนาน
– ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ป้องกันคราบน้ำ คราบฝุ่นละออง และมลภาวะต่าง ๆ
– เพิ่มความเงางาม ให้มีมิติฉ่ำว้าว ได้อย่างเหนือความคาดหมาย
อายุการใช้งาน
ตลอดไป (Lifetime)
การเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก หรือเคลือบกราฟีน โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ทั้งนี้ ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไป ตามขนาดของรถแต่ละคัน รวมถึงสภาพพื้นผิวของรถว่าต้องเตรียมงานหรือปรับพื้นผิวมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการเคลือบ
ค่าใช้จ่ายของการเคลือบรถยนต์ของเรา
– ประเภทของการเคลือบ : เคลือบแก้ว ยี่ห้อ Optimum Gloss Coat, เคลือบเซรามิก ยี่ห้อ Opti-Coat Pro, เคลือบกราฟีน ยี่ห้อ Nxtzen Graphene Serum
– ขนาดของรถยนต์ : S, M, L, XL, XXL
– เตรียมผิวและติดตั้ง : บริการจากช่างที่เชี่ยวชาญ
ลูกค้าสามารถสอมถามและปรึกษาราคาและบริการกับทางเราก่อนได้ เพื่อให้ได้รับบริการที่เหมาะสมและน่าพอใจที่สุด
เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก และเคลือบกราฟีนแตกต่างกันที่วัสดุ โดยเคลือบแก้วใช้ซิลิกา เคลือบเซรามิกผสมไทเทเนียมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และเคลือบกราฟีนใช้คาร์บอนนาโนที่มีความแข็งแรงสูงที่สุด ทำให้เคลือบกราฟีนมีอายุการใช้งานยาวนาน 3-7 ปี รองลงมาคือเคลือบเซรามิก 2-5 ปี และเคลือบแก้ว 1-3 ปี ทั้งนี้ ราคาของการเคลือบก็แตกต่างกันตามคุณสมบัติ โดยเคลือบกราฟีนมีราคาสูงสุด ตามด้วยเคลือบเซรามิก และเคลือบแก้วที่เป็นตัวเลือกในราคาย่อมเยา แต่ยังคงให้ความเงางามและการปกป้องพื้นผิวรถได้ดี
ขั้นตอนการติดตั้งฟิล์มเปลี่ยนสีรถของเรา
1. ทำความสะอาดพื้นผิวและเตรียมรถ
ล้างรถ : ทำความสะอาดรถทั้งคันเพื่อล้างสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และคราบน้ำมัน โดยใช้น้ำยาพิเศษ เช่น Power Clean เพื่อขจัดสารตกค้าง เช่น แว็กซ์เก่า คราบแมลง และคราบสกปรกฝังแน่นบนพื้นผิวรถ
ขจัดคราบฝังแน่น : ใช้ดินน้ำมัน เพื่อลบคราบสกปรกที่ฝังลึกบนพื้นผิว พร้อมเช็ดคราบยางมะตอยหรือคราบเหนียวอื่น ๆ ด้วยน้ำยาขจัดคราบเฉพาะของทางร้าน
2. ขัดปรับสภาพพื้นผิว
ขั้นตอนนี้เน้นการขัดลบรอยลึก รอยขีดข่วน หรือรอยขนแมวบนพื้นผิวรถยนต์ ด้วยการขัดแบบเต็มระบบ ช่วยให้แลคเกอร์มีความสมดุล เงางาม และพร้อมรองรับการเคลือบอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ล้างทำความสะอาดอีกครั้ง
หลังการขัดปรับสภาพพื้นผิว รถจะถูกล้างอีกครั้ง เพื่อล้างฝุ่นละอองและเศษสิ่งสกปรกจากการขั้นตอนขัด ทำให้พื้นผิวสะอาดหมดจด
4. เช็ดพื้นผิวด้วย Optimum Paint Prep
ใช้ Optimum Paint Prep เช็ดพื้นผิวเพื่อกำจัดคราบไขมันหรือสารตกค้างอีกครั้ง เพื่อให้การเคลือบติดแน่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
5. ลงน้ำยาเคลือบ
ใช้น้ำยาเคลือบที่ลูกค้าเลือกทั่วทั้งคันรถด้วยฟองน้ำเฉพาะ เพื่อให้การลงน้ำยาเป็นไปอย่างเรียบเนียน จากนั้นใช้ผ้า ไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงเช็ดน้ำยาตาม เพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียน เงางาม และขจัดคราบน้ำยาที่อาจตกค้าง
6. อบอินฟราเรดเพื่อเซ็ตตัว
ปิดท้ายด้วยการอบอินฟราเรด เพื่อให้น้ำยาเซ็ตตัวอย่างสมบูรณ์ ช่วยให้การเคลือบสามารถป้องกันฝน ความชื้น และสภาพอากาศได้ทันที หลังการเคลือบเสร็จสิ้น
หลังจากการเคลือบแล้ว การดูแลรักษาเป็นเรื่องง่าย เพียงทำตามคำแนะนำเหล่านี้
– กรณีมีฝุ่นน้อย
ถ้ารถมีฝุ่นเกาะนิดหน่อย แค่ใช้น้ำฉีดล้างเบา ๆ ก็พอแล้ว เพราะชั้นเคลือบช่วยลดการเกาะของฝุ่น ทำให้ฝุ่นไม่ติดแน่น ล้างออกง่ายมาก แค่ฉีดน้ำลงไปฝุ่นก็หลุดออกทันที ถ้าอยากให้สะอาดยิ่งขึ้น ก็แค่ใช้ผ้าเปียกลูบเบา ๆ รถก็จะดูเงางามและสะอาดมากขึ้นอีกขั้น
– กรณีมีสิ่งสกปรกมาก
ถ้ามีคราบโคลน ยางมะตอย หรือขี้นกติดอยู่บนรถ คุณสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ เพียงใช้น้ำสะอาดราด แล้วตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเบา ๆ โดยไม่ต้องออกแรงขัด เพราะชั้นเคลือบช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเกาะแน่นอยู่แล้ว บางครั้งแค่ราดน้ำธรรมดา คราบเหล่านี้ก็หลุดออกได้ง่าย ๆ เอง
– หลีกเลี่ยงการขัดสีรถ
การขัดสีรถด้วยเครื่องขัดหรือออกแรงขัดแรง ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย เพราะอาจทำให้ชั้นฟิล์มเคลือบเสียหายหรือบางลงได้ สำหรับรถที่ผ่านการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก หรือเคลือบกราฟีน ทำให้มีความเงางามในตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องขัดเพิ่ม แค่ล้างทำความสะอาดตามปกติก็เพียงพอให้รถดูเงาสวยเหมือนใหม่
– ล้างรถตามปกติ
แค่ล้างรถด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเบา ๆ ก็เพียงพอสำหรับการดูแลรถในชีวิตประจำวันแล้ว โดยไม่ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีแรง ๆ เพราะอาจทำให้ชั้นเคลือบเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม ดูแลง่าย ๆ แบบนี้ รถก็เงาสวยไปได้นาน
– รับบริการบำรุงรักษาที่ศูนย์บริการ
สิ่งสำคัญที่อยากแนะนำคือ อย่าลืมนำรถเข้าศูนย์บริการตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อเช็กสภาพและดูแลชั้นฟิล์มเคลือบให้สมบูรณ์ พร้อมเติมน้ำยาเคลือบใหม่ ก็จะช่วยให้รถของคุณดูเงางามและปกป้องพื้นผิวได้ยาวนานขึ้น
– เลือกใช้บริการจากศูนย์ที่มาตรฐาน
ถ้าอยากให้มั่นใจว่ารถจะได้รับการดูแลอย่างดี แนะนำให้เลือกศูนย์บริการที่มีมาตรฐานและมีความเชี่ยวชาญเรื่องการเคลือบโดยเฉพาะ
บริการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก และเคลือบกราฟีนของทางร้าน สามารถโดนน้ำหรือเจอฝนได้ทันทีหลังการติดตั้ง เพราะเราใช้ระบบอบอินฟราเรดที่ช่วยให้น้ำยาเซ็ตตัวสมบูรณ์ในทันที ทำให้รถของคุณได้รับการปกป้องตั้งแต่เสร็จงาน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องลมฟ้าอากาศเลย
บริการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก และเคลือบกราฟีนของทางร้านสามารถล้างรถได้ตามปกติ หากลูกค้านำรถไปล้างที่คาร์แคร์ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงการขัดผิวรถอย่างรุนแรง อาจทำให้ชั้นเคลือบหลุดลอกได้ และควรใช้วิธีการดูแลที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพของการเคลือบให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ไม่แนะนำให้ลูกค้าสั่งซื้อน้ำยาดูแลรถจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพ เพราะอาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจกัดกร่อนทั้งชั้นเคลือบ และชั้นแลกเกอร์ของรถได้ ทางร้านยินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับการดูแลรถของคุณ
การเคลือบแก้วและเคลือบสีต่างกันที่ความทนทานและการปกป้อง การเคลือบสีเป็นการดูแลระยะสั้นด้วยแว็กซ์ ช่วยให้รถดูเงางามเหมือนใหม่ แต่จะอยู่ได้แค่ประมาณ 1 เดือน จากนั้นต้องเคลือบซ้ำบ่อยครั้ง ส่วนการเคลือบแก้วเป็นการสร้างชั้นฟิล์มแข็งจาก Silica ที่ช่วยปกป้องรถได้ยาวนานกว่า อยู่ได้นานถึง 1 – 5 ปี และยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วน น้ำเกาะ และสิ่งสกปรกได้ดีกว่า แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ถือว่าคุ้มค่ามากในระยะยาว เหมาะกับคนที่อยากดูแลรถให้ดูดีและลดความยุ่งยากในการทำความสะอาดบ่อย ๆ