ฟิล์มใสกันรอยคือแผ่นฟิล์มบางๆ ที่ทำจากวัสดุพิเศษที่มีความโปร่งแสง เนื้อใส เหนียว ทนทาน ยืดหยุ่นสูง และหนา โดยฟิล์มใสกันรอยถูกออกแบบมา เพื่อปกป้องสีรถยนต์จากสิ่งไม่พึงประสงค์ตามท้องถนนโดยเฉพาะ เช่น รอยขีดข่วน การซีดจาง คราบน้ำ และคราบสกปรกต่างๆ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากดูแลรถให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ

ข้อดีของฟิล์มใสกันรอย 

มาดูกันว่าติดฟิล์มกันใสรอยรถยนต์ (PPF) แล้วได้อะไรบ้าง

• ป้องกันรอยขีดข่วนจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน 

ด้วยตัวฟิล์มมีคุณสมบัติที่มีทนทาน หนา และยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีซ่อมแซมตัวเอง (Self-healing) เมื่อฟิล์มเกิดรอยเล็กๆน้อยๆ ลดความเสียหายจากรอยขนแมว กันสะเก็ดหิน รวมถึงรอยเฉี่ยวชน ทำให้รับมือกับปัญหารอยกวนใจได้เป็นอย่างดี 

• เพิ่มความสวย เงางามให้กับรถยนต์

ด้วยตัวฟิล์มมีความใสและโปร่งแสง ทำให้ฟิล์มดูกลมกลืนเป็นสีเดียวกับสีรถ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเสริมความเงางามให้กับสีรถที่มีอยู่ (High Gloss And Clarity) ทำให้รถดูหรูหรา ใหม่ และเงางามอยู่เสมอ เมื่อครบระยะลอกออกสีรถ ก็จะเงางามเหมือนวันแรกที่เข้ามาทำ

• ลดการซีดจางของสีรถในระยะยาว

ด้วยตัวฟิล์มมีคุณสมบัติที่ป้องกันและสะท้อนรังสียูวีและความร้อนสูงได้ดี (Reflectiveness) ทำให้ปกป้องสีรถไม่ให้ซีดจางก่อนเวลา เพราะสาเหตุหลักของที่สีรถซีดเร็ว คือรถต้องตากแดดและสัมผัสรังสียูวีมากเกินไป

• ลดการเกาะของคราบต่างๆบนผิวรถยนต์

ด้วยตัวฟิล์มมีมีเทคโนโลยีป้องกันการเกาะตัวของน้ำและสิ่งสกปรก (Super-Hydrophobic) ช่วยให้ทำความสะอาดและดูแลรักษารถได้ง่ายขึ้น จากคราบต่างๆที่คอยทำร้ายสีรถ ให้รถของคุณยังคงเหมือนใหม่ตลอดอายุใช้งาน

ข้อเสียของฟิล์มใสกันรอย 

มาดูกันว่าติดฟิล์มกันใสรอยรถยนต์ (PPF) มีผลเสียอะไรบ้าง

• มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

ด้วยตัวฟิล์มใช้วัสดุที่มีคุณภาพและเกรดสูง ทำให้ราคาของฟิล์มสูงตามมาเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเลือกติดทั้งคัน รวมถึงค่าติดตั้งที่ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ แต่ราคาถือว่าคุ้มค่ากับคุณสมบัติในการปกป้องสีรถยนต์ที่ได้มา 

• ไม่รองรับความเสียหายขนาดใหญ่

ถึงแม้ว่าตัวฟิล์มจะป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างดี แต่ฟิล์มใสกันรอยไม่สามารถป้องกันความเสียหายรุนแรงจากการกระแทกหนักๆ หรือรอยบุบที่เกิดจากอุบัติเหตุได้ เหมาะกับการป้องกันรอยเล็กๆน้อยๆจากการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า 

• เสี่ยงต่อการติดตั้งผิดพลาด

การติดตั้งฟิล์มใสกันรอยต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญในด้านนี้โดยเฉพาะ เพราะถ้ามีข้อผิดพลาด เช่น มีฝุ่นเล็กๆหรือรอยขีดข่วนติดอยู่ใต้ฟิล์ม จะไม่สามารถซ่อมเฉพาะจุดได้ ต้องเปลี่ยนฟิล์มทั้งแผ่น หรืออาจปัญหาต่างๆ เช่น ฟองอากาศ รอยย่น ไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น

• ปัญหาการลอกออกที่ยุ่งยาก

เมื่อถึงเวลาต้องลอกฟิล์มออก อาจต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะกับฟิล์มที่ไม่ได้เปลี่ยนในระยะเวลานานหลายปี ทำให้ฟิล์มมีการเสื่อมสภาพและลอกออกยาก ซึ่งส่งผลให้มีขั้นตอนการลอกที่ยุ่งยาก ใช้เวลา  เพราะการลอกผิดวิธีอาจทำให้ทำลายสีรถได้

ราคาติดตั้งฟิล์มใสกันรอยเรามีให้บริการ หลากหลายราคาขึ้นอยู่กับ ประเภทของรถยนต์ ขนาดของรถยนต์ ยี่ห้อและเกรดของฟิล์ม รวมถึงบริเวณที่ต้องการติดตั้ง

ลูกค้าสามารถขอใบเสนอราคา บนเว็บไซต์ได้ที่หน้า ติดต่อเรา

หรือติดต่อทีมงาน ได้ที่เบอร์ 096 596 4639

ตารางราคาฟิล์มใสกันรอย

Hood Protection (ฝาหน้า + ไฟหน้า)

[wptb id=1704]

Full Bumper Protection (กันชน + ฝาหน้า + ไฟหน้า)

[wptb id=1706]

Full Front Protection (ครึ่งหน้ารถ)

[wptb id=1708]

Full Body Protection (ภายนอกแบบเต็มคัน)

[wptb id=1710]

เกรดของฟิล์ม

– ฟิล์มเกรดเริ่มต้น: ราคาถูกกว่า แต่คุณภาพและอายุการใช้งานอาจน้อยกว่า

– ฟิล์มเกรดพรีเมียม: เช่น ฟิล์มแบรนด์ Nextzen ราคาสูงกว่าแต่ให้การป้องกันและคุณสมบัติมากกว่า

ราคาโปรโมชั่น

หากเข้ามารับบริการติดตั้งฟิล์มใสกันรอยกับเราครั้งแรก รับคูปองส่วนลดทันที 10%

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ที่มีในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตามวัสดุและคุณสมบัติ ดังนี้

• PVC (Polyvinylchloride) : เป็นฟิล์มเกรดพื้นฐาน เนื้อฟิล์มมีความแข็งและยืดหยุ่นน้อย ด้วยความหนาของฟิล์มประมาณ 50 -100 ไมครอน ทำให้ป้องกันรอยขีดข่วนและสะเก็ดหินได้เล็กน้อย รวมถึงมีราคาถูกที่สุดในตลาด และมีอายุการใช้งาน ประมาณ 1 – 3 ปี เหมาะสำหรับคนที่ใช้ในเวลาสั้นๆ
• TPH (Thermoplastic Polyurethane Hybrid) : เป็นฟิล์มเกรดกลาง เนื้อฟิล์มมีความยืดหยุ่นและทนทานกว่าฟิล์ม PVC ด้วยความหนาของฟิล์มประมาณ 120 – 200 ไมครอน ทำให้ป้องกันรอยขีดข่วนและสะเก็ดหินได้ระดับหนึ่ง รวมถึงมีราคาที่ถูกกว่าฟิลม์เกรด TPU และมีอายุการใช้งาน ประมาณ 3 ปี เหมาะสำหรับคนที่ต้องฟิล์มใสกันรอยที่ราคาจับต้องได้
• TPU (Thermoplastic Polyurethane) : เป็นฟิล์มเกรดพรีเมียม คุณภาพสูงสุดในตลาด เนื้อฟิล์มมีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง ด้วยความหนาของฟิล์มประมาณ 150 – 250 ไมครอน ทำให้ป้องกันรอยขีดข่วนและสะเก็ดหินได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติคืนรูปตัวเอง (Self-healing) เมื่อเกิดรอยขีดข่วนเล็กๆน้อยๆ รวมถึงมีราคาที่คุ้มค่าจากคุณภาพที่ได้มา และมีอายุการใช้งาน ประมาณ 5 – 7 ปี  เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลรักษารถยนต์อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ของเรามีอายุการใช้งานประมาณ 3 – 7 ปี ขึ้นอยู่กับเกรดของฟิล์มที่เลือกใช้งาน ฟิล์มคุณภาพสูงจะมีความทนทานมากกว่าและคงสภาพได้ยาวนานกว่า ทั้งนี้การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีก็มีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มได้เช่นกัน

แนะนำ Nxtzen ซึ่งเป็นแบรนด์ฟิล์มใสกันรอยชั้นนำระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สามารถค้นหารีวิวได้จากหลากหลายแหล่งทั่วโลก โดย Nxtzen เป็นแบรนด์จากออสเตรีย (Austria) และเนื้อฟิล์มผลิตและนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา (USA) ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความทนทาน เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับการดูแลและปกป้องรถของคุณอย่างแท้จริง

การดูแลฟิล์มกันรอยรถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานและดูดีเสมอ แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้

• หลีกเลี่ยงน้ำแรงดันสูงบริเวณขอบฟิล์ม : อย่าฉีดน้ำแรงดันสูงใกล้ขอบหรือรอยต่อของฟิล์ม เพราะอาจทำให้ขอบฟิล์มหลุดลอกได้
• ล้างรถด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน : เลือกใช้แชมพูสำหรับล้างรถที่ไม่มีสารกัดกร่อน เพื่อป้องกันการทำลายพื้นผิวฟิล์ม
• เคลือบสีรถเป็นประจำ : การเคลือบสีรถด้วย Wax อย่างสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มความเงางามและปกป้องฟิล์มจากสิ่งสกปรก
• ทำความสะอาดขอบฟิล์ม : หมั่นเช็ดคราบสกปรกหรือคราบแว็กซ์ที่อาจสะสมอยู่บริเวณขอบฟิล์ม เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกฝังแน่น

การติดฟิล์มใสกันรอยเหมือนเป็นการใส่เกราะให้รถยนต์ เพราะเราคงไม่อยากเห็นรอยขีดข่วนหรือคราบสกปรกมาทำให้รถดูโทรมก่อนเวลา ฟิล์มใสกันรอยช่วยให้เจ้าของรถสบายใจมากขึ้น ไม่ว่าจะขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสีรถเสียหายจากถนนที่มีสะเก็ดหิน หรือเศษต่างๆ กระเด็นเข้ามาใส่ และพอใช้ไปนานๆ รถก็ดูใหม่เหมือนตอนวันแรกที่ออกรถมา อีกทั้งการติดฟิล์มใสกันรอยยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำสีใหม่ได้เป็นอย่างมาก ถือว่าคุ้มค่ามากกับการลงทุน

การติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ของเรา ใช้เวลาประมาณ 3 วัน เนื่องจากเป็นงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำสูง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด หากเร่งรีบเกินไป อาจทำให้คุณภาพงานไม่ดีเท่าที่ควร

ขั้นตอนการติดตั้งฟิล์มใสกันรอยของเรา

– ตรวจเช็คสภาพรอยบนรถยนต์เบื้องต้น ว่ามีรอยขนแมวหรือรอยขีดข่วนมากน้อยแค่ไหน

– ขัดปรับสภาพผิวรถแบบเต็มระบบ

– สามารถเคลือบแก้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเงาขั้นสุด ก่อนติดฟิล์มได้

– เริ่มติดฟิล์มใสกันรอย

ความหนาของฟิล์มใสกันรอยรถยนต์มีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับประเภทและเกรดของฟิล์มที่เลือกใช้ โดยเนื้อฟิล์มเกรด TPU ของเรา THE NeXT มาพร้อมความหนาสูงสุด ที่ประมาณ 190 – 220 ไมครอน ซึ่งถือว่าเป็นความหนาที่ลงตัว ช่วยให้ปกป้องรถได้อย่างยอดเยี่ยม และยังติดตั้งออกมาได้สวยงามอีกด้วย

ฟิล์มกันรอยสามารถติดบนพื้นผิวของรถได้ทุกจุด เช่น ฝากระโปรง กันชน ประตู และกระจกมองข้าง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากมีส่วนไหนที่ฟิล์มไม่สามารถยึดเกาะได้ เช่น จุดโค้งเว้าหรือวัสดุเฉพาะตัว ผู้จัดการจะแจ้งรายละเอียดให้ลูกค้าทราบหน้างาน เนื่องจากบางรุ่นรถอาจมีลักษณะพื้นผิวที่แตกต่างกัน

ทั้งฟิล์มใสกันรอยรถยนต์และการเคลือบแก้วมีข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ หากคุณต้องการการปกป้องในระดับสูงสุดและดูแลรักษาง่าย การติดฟิล์มใสกันรอยเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณเน้นความเงางา การเคลือบแก้วก็ตอบโจทย์ได้ดี หรือคุณสามารถเลือกทำทั้งสองอย่างร่วมกันเพื่อการปกป้องและความสวยงามที่ครบครัน

ฟิล์ม Nxtzen Elite PPF ของแบรนด์ Nxtzen เป็นฟิล์มใสกันรอยเกรดพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีจากออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา และเด่นในการป้องกันรอยขีดข่วน สะเก็ดหิน และคราบสกปรก อักทั้งยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น เพิ่มความเงาใส (High Gloss), น้ำไม่เกาะ (Hydrophobic), ซ่อมแซมตัวเองได้ (Self-Healing), มีระบบ Airflow ที่ช่วยระบายอากาศ, และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม (Anti-Scratch) ใช้งานได้นาน 5-7 ปี เหมาะสำหรับคนรักรถที่ต้องการปกป้องสีรถและเพิ่มความหรูหราให้กับรถอย่างยาวนาน

หลังจากติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ การล้างรถต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพฟิล์มให้อยู่ในสภาพดีที่สุด โดยล้างรถด้วยความนุ่มนวล ใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม จะช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มใสกันรอย และทำให้รถของคุณดูใหม่อยู่เสมอ

ได้ แต่เพื่อให้มั่นใจว่างานติดตั้งจะออกมาสมบูรณ์และปกป้องได้เต็มประสิทธิภาพ ควรสอบถามรายละเอียดกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมและ แนะนำฟิล์มที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณที่สุด

ระยะเวลาการรับประกันฟิล์มใสกันรอยของเรา ขึ้นอยู่กับประเภทและยี่ห้อที่ลูกค้าเลือก โดยปกติแล้วการรับประกันจะแตกต่างกันไป เช่น 3 ปี 4 ปี หรือ 5 ปี สำหรับรุ่นมาตรฐาน แต่ในบางรุ่นพรีเมียมหรือที่นำเข้าจากต่างประเทศ อาจมีการรับประกันยาวนานถึง 10 – 12 ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าฟิล์มจะสามารถปกป้องรถของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในระยะยาว

รถทุกประเภทสามารถติดฟิล์มใสกันรอยได้ แต่เหมาะเป็นพิเศษสำหรับรถ ที่ต้องการตัวช่วยในการดูแลและปกป้องสีรถยนต์ให้เหมือนใหม่ตลอดเวลา